สาเหตุของภาวะไม่สมดุลแบบร้อนเกิน ได้แก่
- เครียด ทำให้ร่างกายเร่งผลิตพลังงานเพื่อต่อสู้กับภาวะที่ทำให้เครียดนั้น โดยเฉพาะการเครียดมากๆเป็นประจำๆ จะเกิดภาวะร้อนเกินขึ้น
- อด หลับอดนอน ถ้าเราไม่พักผ่อนนอนหลับในช่วงที่กำลังง่วงนอน ร่างกายจะผลิตพลังงานสำรองออกมาใช้ยิ่งถ้าไม่หลับในช่วง 4 ทุ่ม ถึง ตี 2 (ช่วงไฟกำเริบ) จะเกิดภาวะร้อนเกินขึ้น ในช่วงเวลาดังกล่าวควรจะทำร่างกายให้นิ่งมากที่สุด(ควรจะหลับลึกในช่วงนี้ดี ที่สุด)
- อดอาหาร แม้หิวก็ไม่ยอมกินอาหาร เมื่อเกิดอาการหิว เป็นช่วงที่ไฟเผาพลาญอาหารกำลังทำงาน ถ้าไม่มีอาหารให้ย่อย ไฟนั้นก็จะเผาตัวเรา(โดยการสันดาปจากไขมันและโปรตีนในร่างกายแทน)
- เร่งร้อน เร่งรีบ คนใจร้อน ทำให้ต่อมหมวกไตหลั่งแอดดรีนาลีนออกมากระตุ้นให้เซลล์เร่งผลิตพลังงาน ภาวะร้อนเกินก็จะเกิดขึ้น
- มักจะทำงานเกินกำลังบ่อยๆ ทำให้พลังงานความร้อนและของเสียอยู่ในร่างกายมาก
- มัก ทำงานให้เสร็จก่อนถึงจะยอมดื่มน้ำ ทั้งๆ ที่รู้สึกคอแห้ง ปากแห้ง ซึ่งเป็นอาการที่แสดงว่าร่างกายกำลังขาดน้ำเมื่อไม่มีน้ำคุ้มครอง ความร้อนทั้งที่อยู่ในและนอกร่างกายก็จะเผาร่างกาย
- มักกลั้นปัสสาวะ อุจจาระ จึงทำให้ของเสียถูกดูดกลับเข้าร่างกาย เกิดภาวะร้อนเกินขึ้น
- มัก ทำงานที่ต้องงอมือ หรือกำมือนานๆ แล้วไม่ได้ดัดคืนหรือไม่ได้กดนวดคลายกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้างกดล็อกลมปราณ ทับระบบไหลเวียนของเลือดลม ไม่สามารถระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ รวมถึงคนที่อยู่หน้าเตาไฟนานๆ
- นั่ง รถเดินทางบ่อยๆ ในขณะที่นั่งรถเดินทางเครื่องยนต์สั่นสะเทือนร่างกายทำให้เซลล์ในร่างกาย สั่นสะเทือนไปด้วยและเกิดพลังงานความร้อนขึ้นในเซลล์ จะสังเกตุได้ว่าเวลาเราเดินทางนานๆ ร่างกายจะอ่อนเพลีย ซึ่งเป็นภาวะร้อนเกิน
- มีกิจกรรมหรือการงานที่ต้องพูดมากๆ กล่องเสียงสั่นสะเทือนส่งผลให้ต่อมไทรอยด์บริเวณคอถูกกระตุ้นให้ทำงาน(ต่อม นี้ทำหน้าที่เร่งการสันดาปเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงานความร้อน) คนที่ต้องพูดมากๆ บ่อยๆ จึงเกิดภาวะร้อนเกิน
- คนที่ทำงานใช้สมองมากๆ การใช้พลังงานสมองนั้นเปลืองพลังงานมากกว่าการใช้พลังงานร่างกาย
- หงุดหงิดโมโหง่ายบ่อยๆ
- มัก กินของที่มีฤทธิ์ร้อนมากๆ บ่อยๆ ได้แก่ ข้าวเหนียว, ข้าวกล้องสีแดง - ดำ, เผือก มัน กลอย, ข้าวสาลี, ขนมปังอาหารหวานจัด, เห็ดหลินจือ, ถั่วแดง, ถั่วดำ, ถั่วลิสง, กะทิ, งา, เม็ดมะม่วงหิมพานต์, น้ำมันพืช, น้ำมันสัตว์, ผักที่มีรสเผ็ดร้อน, ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง, อาหารเผ็ดจัดเค็มจัด, อาหารใส่สารสังเคราะห์ หรือผงชูรส ,ยาบำรุงเลือด ,เหล้า เบียร์ ไวน์ บุหรี่ , ของหมักดอง, กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำร้อนจัด หรือเย็นจัด เป็นต้น
- หน้าแดง บางคนบริเวณตาขาวมีลักษณะแดง ตาแห้งไม่ค่อนมีขี้ตา
- มีสิวฝ้าขึ้น
- มีแผลในช่องปากด้านล่าง (ถ้าเป็นแผลด้านบนจะเกิดภาวะเย็นเกิน)
- ปากคอแห้ง บางคนถึงกับริมฝีปากแตกเป็นขุย
- รูขุมขนจะขยายโดยเฉพาะบริเวณหน้าอก คอ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ผมหงอกก่อนวัย
- ไข้ขึ้น ปวดหัว ตัวร้อน แขน - ขาร้อน มือร้อน เท้าร้อน
- บริเวณท้องแขนด้านใน น่อง หน้าแข้ง เส้นเลือดจะขยายตัวใหญ่ มีเส้นเลือดขอดตามจุดต่างๆ
- ปวด บวมแดงร้อนตามร่างกายหรือตามข้อ
- กล้ามเนื้อเกร็งค้างกดเจ็บ
- ผิวหนังผิดปกติคล้ายรอยไหม้
- มักจะตกกระเป็นสีน้ำตาล หรือสีดำตามร่างกาย
- อุจจาระแข็งหรือเป็นก้อนเหมือนขี้แพะ ท้องผูกเป็นประจำ
- ปัสสาวะปริมาณน้อย และเป็นสีเข้ม ปัสสาวะบ่อยมีอาการแสบขัด มักลุกขึ้นมาปัสสาวะช่วงเที่ยงคืน ถึง ตีสอง
- บางครั้งมีอาการท้องอืด
- ผิวหนังจะมีผื่นหรือปื้นแดงคัน ยิ่งเกายิ่งคัน
- ถ้ามีอาการร้อนเกินมากๆ จะเป็นเริม หรืองูสวัด
- หายใจร้อน เสมหะเหนียวข้น มีสีขาวขุ่น สีเหลือง หรือสีเขียวก็ได้
- มีเลือดกำเดาออก
- มักง่วงนอนหลังกินอาหารอิ่มใหม่ๆ
- บางคนเป็นมากจะยกแขนขึ้นไม่สุด
- เล็บมือเล็บเท้ามีลักษณะขวางสั้น (เล็บกุดๆ ปุ้มๆ) มีเล็บสีน้ำตาลหรือดำคล้ำ
- มีอาการหน้ามืดเป็นลม เช่น หน้าแดง ปวดศรีษะ ปวดต้นคอ ปวดไหล่ ปวดตา หรือคลื่นไส้อาเจียน
- รู้สึกร้อนแต่เหงื่อไม่ออก
- เจ็บปลายลิ้น แสดงว่าหัวใจร้อนมาก เป็นมากจะยกแขนไม่ขึ้นถ้าฝืนยกจะเจ็บแปล๊บร้าวไปที่ปลายแขน
- เจ็บคอ เสียงแหบ
- หิวมาก หิวบ่อย กินเท่าไรก็ไม่อ้วน
- กล้ามเนื้อเป็นตะคริว
- สะอึก
- ปวดท้อง
- ส้นเท้าแตก เจ็บส้นเท้า
ข้อมูลจาก.....หนังสือถอดรหัสสุขภาพ โดย หมอเขียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น