วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อาหารเครื่องยาจีนสำหรับบำรุงม้าม

อาหารเครื่องยาจีนสำหรับบำรุงม้าม ปรุงจากยาจีน
และอาหารที่มีประโยชน์ต่อม้าม มีสรรพคุณในการบำรุงม้าม และ
เกื้อกูลพลัง ปรับกระเพาะอาหารให้สู่สภาวะสมดุล เหมาะสำหรับ
บำบัดพลังพร่อง อาการอ่อนเพลีย มือเท้าไม่มีแรง วิงเวียนศีรษะ
และเหงื่อออกผิดปกติ หายใจถี่ เบื่ออาหาร ปวดบริเวณช่องว่าง
ของกระเพาะอาหาร อุจจาระเหลว หรือท้องเดิน สีลิ้นซีดมีฝ้าขาว
และชีพจรเต้นช้า เป็นต้น

          1. เนื้อปลาผัดห่วยซัว
          เอา เนื้อปลาคาร์ปดำ 250 กรัม
          ห่วยซัวสด 150 กรัม
          น้ำมันสลัด 3 ช้อนโต๊ะ
          เครื่องปรุงมี เหล้าเหลืองจีน 1 ช้อนโต๊ะ แป้งมัน 3
ช้อนชา หอม 2 ต้น ขิง 10-15 แว่น เกลือ 1/2 ช้อนชา น้ำมันงา
เล็กน้อย
          วิธีทำ ล้างเนื้อปลาให้สะอาด ลอกหนังปลา และล้าง
คาวปลาออก หั่นเนื้อปลาตามแนวขวางเป็นชิ้นๆ ใส่เหล้าเหลือง
และแป้งมัน 2 ช้อนชา คลุกให้เข้ากับเนื้อปลา เตรียมไว้ ปอก
เปลือกห่วยซัว ล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นแผ่นๆ ตั้งกระทะใส่
น้ำมัน พอน้ำมันร้อนเจียวหอม และขิงให้หอม ใส่เนื้อปลา และ
ห่วยซัวแผ่นลงไป กลับเนื้อปลาไปมาเบาๆ ระวังไม่ให้เนื้อปลา
แตก ใส่เกลือ แล้วผัดเนื้อปลา และห่วยซัวแผ่นจนสุก ผสมแป้งมัน
1 ช้อนชากับน้ำพอประมาณ คนให้เข้ากันแล้วเทลงไปคลุกกับเนื้อ
ปลา เหยาะน้ำมันงาเล็กน้อย กลับเนื้อปลาอีกที เป็นอันเสร็จ
รับประทานประจำเป็นกับข้าว
          สรรพคุณ บำรุงม้าม เสริมพลัง ห่วยซัวมีสรรพคุณ
บำรุงม้าม ระงับอาการท้องเดิน บำรุงไต ใช้ปรุงกับเนื้อปลาคาร์ป
ดำช่วยเสริมพลัง บำรุงกระเพาะอาหาร เนื้อปลาผัดห่วยซัวไม่
เพียงเสริมสุขภาพ ยังมีรสชาติกลมกล่อมด้วย สำหรับปลาคาร์ป
ดำถ้าไม่มี ใช้ปลาเฉาฮื้อ หรือหลีฮื้อแทนก็ได้

          2. กระเพาะหมูตุ๋นแปะตุ๊ก
          เอา กระเพาะหมู 1 อัน
          แปะตุ๊กผัด 30 กรัม
          หมากแห้ง 10 กรัม (หรือหมากสด 20 กรัม)
          เครื่องปรุงมี หอม 5 ต้น ขิง 5 แว่น เหล้าเหลืองจีน
2 ช้อนโต๊ะ
          วิธีทำ ล้างกระเพาะหมูให้สะอาด แล้วลวกด้วยน้ำ
เดือด เพื่อขจัดกลิ่นคาว และเมือก จากนั้นล้างให้สะอาดอีกครั้ง
ใส่แปะตุ๊ก และหมากลงในเหม้อพร้อมกัน เติมน้ำ 3 ถ้วย แช่ไว้
30 นาที แล้วตั้งไฟต้ม 30 นาที แยกกากออกเอาแต่น้ำ ใส่กระเพาะ
หมูในหม้อดิน ใส่เครื่องปรุง และน้ำแปะตุ๊กลงไป หากน้ำที่ต้มไม่
พอ เติมน้ำเพิ่มให้ท้วมกระเพาะหมู ตั้งไฟอ่อนตุ๋นจนกว่ากระเพาะ
หมูสุก และนุ่ม เป็นอันเสร็จ หั่นกระเพาะหมูเป็นชิ้นๆ จิ้มซี่อิ้ว และ
น้ำมันงา รับประทานกับข้าวเป็นประจำ
          สรรพคุณ บำรุงจ๋งขี่เสริมพลัง บำรุงม้าม และปรับ
กระเพาะสู่สภาวะสมดุล เป็นอาหารที่ดัดแปลงมาจากโจ๊กแปะ
ตุ๊กกระเพาะหมูในตำรา เฉิ้งจี้โจ่งลู่ แปะตุ๊กมีประโยชน์ต่อระบบ
การทำงานของม้าม และช่วยเสริมพลังในร่างกาย ทะลวงการ
อุดตันของอวัยวะภายใน กระเพาะหมูบำรุงม้าม และกระเพาะ
อาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่ม้าม และกระเพาะอาหารอ่อนแอ ระบบ
ย่อยไม่แข็งแรง เบื่ออาหาร ร่างกายอ่อนเพลีย ท้องอืด ระบบ
ขับถ่ายไม่ดี หมากนั้นมีส่วนทำให้สูญเสียพลังในร่างกายได้ ไม่
ควรรับประทานบ่อย เมื้อรับประทานไป 3-5 วันแล้ว ให้หยุด 3
วัน จนกระทั่งอาการดีขึ้นจึงหยุดรับประทาน

          3. บะหมี่หยกขาว
          เอา แป้งหมี่ 3,000 กรัม
          แป้งห่วยซัว 1,500 กรัม
          แป้งถั่วเหลือง 200 กรัม
          ไข่ไก่ 10 ฟอง
          เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
          วิธีทำ ใส่แป้งหมี่ แป้งห่วยซัว และแป้งถั่วเหลืองลง
ในภาชนะ ผสมให้เข้ากัน ตอกไข่ไก่ลงไป เติมน้ำ 5 ถ้วย และเกลือ
1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน และนวดให้เป็นก้อน ห่อก้อนแป้งด้วย
แผ่นพลาสติกใส ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นหั่นแป้งเป็นก้อนๆ
แล้วคลึงเป็นแผ่นบางๆ โรยแป้งหมี่บนแผ่นแป้งแต่ละแผ่น วาง
ซ้อนกันหลายๆแผ่น แล้วหั่นให้เป็นเส้น หากใช้ไม่หมดภายในหนึ่ง
มื้อ ที่เหลือให้โรยแป้งหมี่ แล้วเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อใช้ต่อไป แต่ไม่
ควรเก็บไว้นานเกินไป ใช้รับประทานเป็นอาหารหลักได้
          สรรพคุณ บำรุงม้าม และไต ห่วยซัวเป็นสมุนไพร บำรุง
ม้าม ปอด และไต ราคาถูก ไม่เลี่ยน ไม่ทำให้ร้อนใน ชาวจีนนิยมใช้
เป็นอาหารบำรุง และเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์จีนว่า เป็นยา
บำบัดอาการพร่องของร่างกายที่ดียิ่ง จากการวิจัยทางการแพทย์
แผนปัจจุบันพบว่า ห่วยซัวประกอบด้วยธาตุบำรุงหลายชนิด มี
แป้งตะกอน ช่วยเสริมระบบย่อย และระบบทางเดินอาหาร สูตร
อาหารนี้จึงเหมาะสำหรับบำบัดอาการอุจจาระเหลว หรือท้องเดิน
น้ำอสุจิเคลื่อนบ่อยของผู้ชาย หญิงที่มีประจำเดือนมากผิดปกติ
และปัสสาวะบ่อย ซึ่งมีสาเหตุจากม้าม และกระเพาะอาหารพร่อง
และอ่อนแอ
          หมายเหตุ บะหมีหยกขาวนี้เหมือนบะหมี่ทั่วไป จะทำ
เป็นบะหมี่น้ำ หรือบะหมี่แห้งก็ได้

          4. ซุปปลาลายคำ
          เอา ปลาลายคำ 1 ตัว ประมาณ 600 กรัม
          ผักชุนไฉ่ ชนิดบรรจุขวด 200 กรัม
          เครื่องปรุงมี เกลือ 1 1/2 ช้อนชา
          แป้งมัน 1 1/2 ช้อนชา
          น้ำมันงา เล็กน้อย
          หอม 2 ต้น ขิง 15 แว่น
          เหล้าเหลืองจีน 1 ช้อนโต๊ะ
          วิธีทำ ล้างปลาให้สะอาด วางบนจาน แล้วใส่ หอม ขิง
และเหล้า จากนั้นนึ่งประมาณ 10 นาที แล้วยกลง ลอกหนังปลา
ออก เลาะเนื้อปลาออกอย่าให้มีก้างเตรียมไว้ เติมน้ำ 4 ถ้วยลงใน
หม้อ ใส่เกลือ ต้มให้เดือด แล้วผสมแป้งมันเล็กน้อยเทลงไป ทำให้
ซุปข้น ใส่เนื้อปลา และผักชุนไฉ่ลงในซุป เหยาะน้ำมันงาเล็กน้อย
ต้มให้เดือด เป็นอันเสร็จ รับประทานเป็นกับข้าว
          สรรพคุณ เสริมพลัง เจริญอาหาร บำรุงเลือด และ
สารจำเป็นของร่างกาย เป็นสูตรอาหารที่มาจากตำรา ไคเป่าเปิ๋น
ฉ่าว ปลาลายคำมีประโยชน์บำรุงม้าม และกระเพาะอาหาร ผัก
ชุนไฉ่ช่วยเป็นส่วนผสม ช่วยเจริญอาหาร และเสริมพลัง เหมาะ
สำหรับผู้ที่ม้าม และกระเพาะอาหารพร่อง เบื่ออาหาร และมี
อาการเจ็บป่วยเรื้อรัง
          หมายเหตุ ผักชุนไฉ่ เป็นผักที่มีมากในแหล่งน้ำทาง
ภาคใต้ของจีน ใบคล้ายใบบัวเล็ก ถ้าอยู่ในไต้หวัน จะซื้อผักชุน
ไฉ่บรรจุขวดได้ตามร้านขายของทั่วไป

          5. ซุปปลาจิ๊กฮื้อ
          เอา ปลาจิ๊กฮื้อ 1 ตัว 200 กรัม
          ขิงแก่หั่นเป็นแว่น 10 กรัม
          เปลือกส้มจีน (ฉิ่งพ้วย) 10 กรัม
          น้ำมันถั่วลิสง 2 ช้อนโต๊ะ
          เครื่องปรุงมี หอม 2 ต้น พริกไทย 10 เม็ด เหล้าเหลือง
จีน 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ และน้ำตาลทราย อย่างละ 1/2 ช้อนชา
          วิธีทำ ล้างปลา แช่เปลือกส้มให้นิ่ม และหั่นเป็นเส้น
ฝอย ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เมื่อกระทะร้อน ใส่ต้นหอมลงเจียวให้
หอม แล้วใส่ปลาลงไปเจียวให้เหลืองทั้งสองด้าน ใช้ผ้าขาวบาง
ห่อขิง เปลือกส้ม และพริกไทย มัดให้แน่น ยัดใส่ท้องปลาแล้ว
วางปลาลงในหม้อดิน เติมเหล้าเหลืองจีน น้ำ 3 ถ้วย ตั้งไฟอ่อน
ตุ๋นประมาณ 1 ชั่วโมง จนน้ำซุปเป็นสีขาวนวล เติม เกลือ และ
น้ำตาลทราย และต้มให้เดือดอีกครั้ง เป็นอันเสร็จ รับประทาน
ทั้งเนื้อปลา และซุป
          สรรพคุณ อุ่นจ๋งขี่ และสลายเย็น บำรุงม้าม และ
เพิ่มพลัง ขิงให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และแก้คลื่นไส้อาเจียน
เปลือกส้มบำรุงม้าม เสริมพลัง ช่วยทะลวง และระบายสิ่งอุดตัน
พริกไทยเป็นประโยชน์ต่อกระเพาะอาหาร แก้อาเจียน นำสาม
สิ่งนี้มาปรุงกับปลาจิ๊กฮื้อ จะช่วยอุ่นจ๋งขี่ สลายเย็น บำรุงม้าม
และกระเพาะ มักใช้บำบัดอาการกระเพาะเย็น คลื่นไส้อาเจียน
อาหารไม่ย่อย และร่างกายอ่อนแอ

          น้ำขิง
          น้ำขิงร้อนช่วยให้คนไข้ฟื้นจากการสลบ ในตำรา
จางฉื้ออีโทง บันทึกไว้ว่า ว้างฉือชาน แพทย์มีชื่อ เคยรักษาคนไข้
รายหนึ่งที่ป่วยเป็นไข้หวัดหลายวันติดต่อกันจนสลบไปในที่สุด
นายแพทย์ว้างวินิฉัยว่า เกิดจากพลังจุกตันเรื้อรัง จึงจัดยาหม้อ
ประกอบด้วยโสม และยาอีกเจ็ดชนิด แต่ยายังต้มไม่เสร็จคนไข้
ก็หมดสติเสียก่อน นายแพทย์ว้างจึงสั่งคนให้โอบคนไข้ไว้ และ
ช่วยให้คนไข้หายใจทางปาก แล้วชงน้ำขิงร้อนๆ 1 ถ้วย กรอก
ใส่ปากคนไข้อย่างช้าๆ และห้ามเคลื่อนไหวคนไข้ เวลาผ่านไป
ไม่นานคนไข้ก็รู้สึกตัว จากนั้นจึงได้จัดยารักษาต่อไปตามลำดับ

          ปลาลายคำ
          ชื่ออื่นๆในภาษาจีน ได้แก่ อึ่งฮวยฮื้อ เจียะเถ่าฮื้อ
ในการประกอบอาหารจะใช้เนื้อของปลาตัวใหญ่ หรือตัวเล็กก็ได้
          รสชาติ และสรรพคุณ รสหวาน มีธาตุเป็นกลาง บำรุง
พลัง ช่วยเจริญอาหาร เสริมหยาง และสารจำเป็นของร่างกาย แก้
ท้องเดิน มักใช้บำบัดผู้ที่สุขภาพอ่อนแอ เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ
และตาพร่ามัว เป็นต้น
          ส่วนประกอบ และคุณค่าทางอาหาร มีโปรตีนสูง
ไขมัน แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ไอโอดีน และไรโบเฟลวิน
ในกระเพาะปลามีโปรตีนชนิดเหนียวข้น และน้ำตาล มีประโยชน์
ในการห้ามเลือด
          หมายเหตุ เนื้อปลาลายคำนุ่ม และหอม จะทอด นึ่ง
หรือทำเป็นน้ำแกงก็อร่อยทั้งนั้น หรือจะทำเป็นปลาเค็มก็ได้ เหมาะ
สำหรับสตรีที่เลือดพร่อง ประจำเดือนขาด แต่ไม่ควรรับประทาน
มาก จะทำให้มีเสมหะ

          ข้าวสาลี
          ชื่ออื่นๆในภาษาจีน ได้แก่ ห่วยเสียวแบ๊ะ ผู่เสียวแบ๊ะ
เป็นพืชตระกูลหญ้า เมล็ดข้าวสาลีที่โม่เป็นแป้ง เรียกว่า แป้งสาลี
หรือ แป้งหมี่
          รสชาติ และสรรพคุณ รสหวาน มีธาตุเย็น บำรุงหัวใจ
และสมอง เกื้อกูลไต ขับร้อน บรรเทาอาการอารมณ์หงุดหงิด กระ
หายน้ำ ท้องเดิน ช่วยขับปัสสาวะ มักใช้บำบัดสตรีที่อวัยวะภาย
ในแห้ง ปวดบวม ไฟลวก นอนไม่หลับ เหงื่อออกผิดปกติขณะนอน
หลับ บวมน้ำ เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด และเด็กที่เป็น
แผลในปาก
          ส่วนประกอบ และคุณค่าทางอาหาร ประกอบด้วย
แป้ง โปรตีน กลูโคส ไขมัน ไฟเบอร์ ทั้งยังมีสารสเตียรอยด์ แอล
กอฮอล์ ไรโบเฟลวิน และยีสต์ต่างๆ ที่ช่วยย่อยอาหาร รำข้าวสาลี
อุดมด้วยวิตามินบี และโปรตีน ช่วยผ่อนคลายประสาท
          ๐ วิธีใช้
          ข้าวสาลี 50 กรัม พุทราจีน 10 ลูก ชะเอม 9 กรัม ต้ม
รวมกัน ดื่มแต่น้ำ ขณะยังอุ่นอยู่ บำบัดสตรีอวัยวะภายในแห้ง
สุขภาพจิตไม่ดี หงุดหงิด โกรธง่าย
          หมายเหตุ ข้าวสาลีให้แคลอรีสูง มีวิตามีนอีช่วย
ชะลอความแก่ เหมาะกับผู้สูงอายุ ใบ และลำต้นใช้เป็นยาได้
หากรับประทานมากจะมีอาการท้องอืด กระหายน้ำ ผู้ที่มีอาการ
พลังสะดุด ปากแห้ง เป็นโรคร้อนชื้นไม่ควรรับประทานมากเกินไป

          กระเพาะหมู
          รสชาติ และสรรพคุณ รสหวาน มีธาตุอุ่น ช่วยเสริม
ส่วนพร่อง บำรุงม้าม และกระเพาะอาหาร เหมาะกับผู้ที่มีสุข
ภาพอ่อนแอ อุจจาระเหลว กระหายน้ำ ปัสสาวะบ่อย และเด็ก
ที่ตัวผอม สุขภาพอ่อนแอ เป็นต้น
          ๐ วิธีใช้
ถ้าม้ามพร่อง ถ่ายอุจจาระเหลว ใช้กระเพาะหมูครึ่งอัน
ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นๆ ต้มกับข้าวแกบี้ และห่วยซัว ต้มให้เป็น
โจ๊ก ก่อนรับประทานให้เติมขิงสด และปรุงรสด้วยเกลือ


                         อาจารย์ เกรียงไกร เถลิงพล ( ลี )



* อาหารที่บำรุงม้าม
คือ พืช ผัก ผลไม้ ที่มี....
-สีเหลือง- และมีรสเปรี้ยว แต่ต้องมีรสหวานตามจึงจะช่วยฟื้นฟูและบำรุงม้ามให้แข็งแรง เช่น น้ำเสาวรส น้ำบ๊วย น้ำมะนาว ที่มีสีเหลือง มีรสเปรี้ยว แต่ต้องกินกับน้ำผึ้ง จึงจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
-หวาน- ถ้ากินหวานโดดๆ จะเป็นโทษต่อกระเพาะอาหารและม้ามอย่างแรง คือ เกิดอาการ มึนเมา อ่อนเปลี้ย หมดแรง เช่น ละมุด ลำไย ฉะนั้น ผลไม้จึงควรกินก่อนอาหาร ผลไม้ที่จะกิน หลังอาหารได้มี มะละกอ สับปะรด มะม่วง (ใกล้สุก ที่มีรสเปรี้ยวหวาน) เพราะผลไม้ทั้ง ๓ ชนิด มีเอนไซม์ในการย่อยของตัวเองไม่ต้องรอจนกว่าแป้ง คาร์โบไฮเดรท และ โปรตีน ย่อยจนเสร็จก่อน จึงไม่เกิดการหมักในกระเพาะที่จะทำให้อืด
-ปลายฤดูร้อน- หรือ ต้นฤดูฝน อากาศจะชื้น มีผลทำให้กระเพาะอาหารและม้ามอ่อนแอลง ทำให้ท้องเสียได้ง่าย ถ้าเกิด อาการเช่นนี้ขึ้น ไม่ต้องตกใจ หรือรีบไปหายามากินแก้ท้องร่วง เพราะเป็นอาการที่ม้ามขับพิษออกจากร่างกาย ควรปล่อย ให้ร่างกายขจัดของเสียออกให้หมด ก็จะหยุดถ่ายเอง ถ้าไปกินยาระงับเอาไว้ พิษก็จะตกค้าง อยู่ในกระแสเลือด และน้ำเหลือง ควรจะดื่ม น้ำมะพร้าวที่อยู่ชายทะเล หรือบนเกาะที่เป็นสีเหลือง (King Coconut) จะมีประสิทธิภาพ ในการช่วยฟื้นฟูม้าม และขับพิษได้อย่างรวดเร็ว
-กล้ามเนื้อ- ความหวานจะซาบซึมไปตามกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหวานอย่างเดียว จะทำให้กล้ามเนื้ออ่อน เปลี้ย ฉะนั้น หวาน ต้องมีรสเปรี้ยว และขมผสมกัน จึงจะทำให้ กล้ามเนื้อแข็งแรง
-ปาก- ปัญหา ที่เกิดมาจากกระเพาะอาหารและม้าม จะแสดงออกที่ริมฝีปากตอนบน บางครั้งก็เป็นแผล แสดงว่า ผู้นั้น กินอาหารรสจัด จนเกิดแผลในกระเพาะอาหาร และทางเดินอาหา รตอนบน สีของริมฝีปากตอนบน มีสีชมพู แสดงว่า ระบบดูดซึมปกติ ถ้ามีสีขาว แสดงว่า ระบบดูดซึมอ่อนแอลง ถ้ามีสีเขียวคล้ำแสดงว่า มะเร็งกำลังก่อตัว
-กังวล- คน ที่มีความกังวลในเรื่องใดๆ บ่อยๆ จะทำให้กระเพาะอาหาร และม้ามอ่อนแอลง ส่งผลทำให้กระเพาะ อาหาร ไม่สามารถดูดซึมได้ดี และม้ามไม่สามารถขจัดเซลล์ เม็ดเลือดตาย ออกได้ จึงทำให้เลือดเป็นกรด และทำให้ มดลูกบวม หรือหย่อนในผู้หญิง ส่วนผู้ชาย จะส่งผลต่อต่อมลูกหมาก


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น